วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

กราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดน้ำพาง (๗ มกราคม ๒๕๕๖)


วันนี้เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น.พ.ต.ท.สุพจน์ มัจฉา รอง ผกก.สืบสวน,พ.ต.ท.อรุณสวัสดิ์ ยอดกระโทก รอง ผกก.ป้องกันปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์ซึ่งประกอบด้วย ร.ต.ท.ณัฐวิทย์ วัดคำ รอง สวป.และ ด.ต.วัชระ มัยราช ได้เดินทางไปกราบนมัสการและแนะนำตัวต่อพระครูวิทิตนันทเวช เจ้าอาวาสวัดน้ำพาง ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลน้ำพาง อำเภแม่จริม เนื่องในโอกาสเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ พร้อมทั้งขอรับคำแนะนำจากพระคุณเจ้าในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในมุมมองของพระสงฆ์เพื่อนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น



สำหรับคำแนะันำของท่านพระครูซึ่งมีเมตตาต่อพวกเราในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจนั้นท่านได้นำเรื่องสำหรับหัวข้อธรรมะที่พระคุณเจ้าได้เมตตาแสดงธรรมในครั้งนี้คือเรื่องอิทธิบาล ๔ ซึ่งมีดังนี้
คำว่าอิทธิบาทแปลว่าบาทฐานแห่งความสำเร็จ หมายถึงสิ่งซึ่งมีคุณธรรม เครื่องให้ลุถึงความสำเร็จตามที่ตนประสงค์ ผู้หวังความสำเร็จในสิ่งใดต้องทำตนให้สมบูรณ์ด้วยสิ่งที่เรียกว่าอิทธิบาทซึ่งจำแนกไว้เป็น ๔ คือ
๑. ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
๒. วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น
๓. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น
๔. วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น
ธรรม ๔ อย่างนี้ ย่อมเนื่องกัน แต่ละอย่างๆ มีหน้าที่เฉพาะของตน


ฉันทะ คือความพอใจในฐานะเป็นสิ่งที่ตนถือว่าดีที่สุดที่มนุษย์เราควรจะได้ข้อนี้เป็นกำลังใจอันแรกที่ทำให้เกิดคุณธรรมข้อต่อไปทุกข้อ
วิริยะ คือความพากเพียร หมายถึงการการะทำที่ติดต่อไม่ขาดตอนเป็นระยะยาวจนประสบความสำเร็จ คำนี้มีความหมายของความกล้าหาญเจืออยู่ด้วยส่วนหนึ่
จิตตะ หมายถึงความไม่ทอดทิ้งสิ่งนั้นไปจากความรู้สึกของตัว ทำสิ่งซึ่งเป็นวัตถุประสงค์นั้นให้เด่นชัดอยู่ในใจเสมอ คำนี้รวมความหมายของคำว่าสมาธิอยู่ด้วยอย่างเต็มที่
วิมังสา หมายถึงความสอดส่องในเหตุและผลแห่งความสำเร็จเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดเวลา คำนี้รวมความหมายของคำว่าปัญญาไว้อย่างเต็มที่



พระคุณเจ้าได้มีัเมตตาขยายความประกอบด้วยว่าในส่วนของตำรวจนั้นสามารถนำหลักธรรมที่แสดงว่ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างแท้จริงโดยตำรวจทุกคนจะต้องมีความพอใจหรือ "ฉันทะ" ในหน้าที่การทำงานของตนเองเป็นเบื้องต้นก่อนว่างานที่ได้รับมอบหมายหรือมีหน้าที่รับผิดชอบนั้นล้วนแล้วแต่เกิดประัโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในด้านการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข การดูแลรักษาความปลอดภัยในชีัวิตและทรัพย์สินเป็นหลักซึ่งเป็นหน้าที่ที่น่าภูมิใจยิ่้ืงที่ได้มาทำ ณ จุดนี้ ต่อไปเมื่อมีความพอใจในหน้าที่การงานนั้นแล้วตำรวจเราจะต้องมี "วิริยะ" หรือความขยันหมั่นเพียรตั้่งใจปฏิบัติหน้าที่ที่รับมอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถโดยไม่ีหวันไหวต่ออุปสรรคใดๆ หากมีปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องก็ให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อพิจารณาหาทางแก้ไขให้ต่อไป


ประการต่อมาก็คือตำรวจจะต้องมี "จิตตะ" ต่องานที่รับมอบหมายซึ่งหมายถึงนอกจากตั้งใจทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถแล้วจะต้องมีจิตใจจดต่อ มุ่งมั่นทุ่มเทในงานนั้นๆ ด้วย และประการสุดท้ายตำรวจจะต้องมี "วิมังสา" สอดส่องดูแลและมุ่งเน้นถึงความสำเร็จของงานที่ทำซึ่งในหน้าที่ของตำรวจที่สำคัญที่สุดที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือความปลอดภัยในชีัวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนนั่นเอง จึงขอให้ผู้เข้ารับฟังธรรมะครั้งนี้ทุกคนจงนำหลักธรรมะที่ได้รับนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป



นอกจากนี้พระคุณเจ้ายังได้มีเมตตามอบตะกรุดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่แก่พวกเราทุกคนด้วย
ขอกราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าที่กรุณามีเมตตาแสดงธรรมะอันสำคัญยิ่งครั้งนี้แก่พวกเราเป็นอย่างสูง โดยพวกเราทุกคนจะนำหลักธรรมะที่ได้รับนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อสังคม ชุมชน และประเทศชาติสืบไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น